ตำนาน Dota

 dota 





จากการกล่าวยาวถึงที่มาที่ไปครับเพื่อให้คนไม่รู้จักได้เข้าใจ
สิ่งนี้นำมาสู่ปรากฏการณ์ dota fever ที่ไม่ว่าใครๆ ก็จะต้องเล่น!!! และการเล่น dota ไม่เป็นหรือไม่เก่ง กลายเป็นปมด้อยทางสังคมอย่างหนึ่งไปเลยล่ะครับ
และใครที่เล่นเก่งๆ ผู้คนจะยกย่องกันดุจเทพเจ้า และดังนั้นคำว่า "เทพ" นั้นก็มีที่มาจาก dota เนี่ยแหละครับ
และศัพท์วัยรุ่นอื่นๆ ก็ถูกสร้างจาก dota มาเสียทั้งนั้น จนเรียกได้ว่าเป็นแฟชั่น หรือแทบจะเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของคนส่วนหนึ่งสมัยนี้
แม้ว่าคุณจะเล่นคอมไม่เป็น เล่น warcraft 3 แบบปกติก็ไม่เป็น หรือทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่ถ้าเล่น dota เก่งคุณเป็นดาราแล้วล่ะครับ
คำศัพท์อีกคำนึงที่มีรากศัพท์จากคำฝรั่ง และเป็นคำศัพท์ที่แทบจะเทียบได้กับการสรรเสริญกันอย่างยิ่ง!
นั่นคือคำว่า noob ออกเสียงว่า นู้บ จากฝรั่งเดิมที่เค้าใช้เรียกผู้เล่นมือใหม่ หรือ newbie นั่นเอง
แต่ในเมืองไทยแห่งนี้ คำว่า noob จะหมายถึงความแย่ และความเลวร้ายที่ผู้เล่นคนหนึ่งๆ จะพึงมี
แสดงถึงความห่วยอย่างที่สุดไม่ได้
ส่วนปัจจุบันนั้นจะมีศัพท์ใหม่ที่มีความหมายใกล้กันคือคำว่า kak หรือ กาก ก็ย่อมาจาก กากเดนนั่นเองครับ                                                                                                                                                         แน่นอนครับ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสิ่งที่ตามมา เด็กติดเกมส์กันงอมแงมยังไม่เท่าไหร่ครับ เมื่อเทียบกับการติด dota
dota นั้นถือเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างหนึ่ง ดังที่กล่าวไป การมาลบหลู่กันนั่นถือว่า ต้องเอาถึงตาย! (แต่ไม่ได้ตายจริงนะ สำนวนๆ)
ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันมาพูดว่า คุณนู้บจัง แน่นอนครับ เกมส์จะเปลี่ยนเป็นมวยไปในทันที
ดังภาษิตไทยว่า เกมส์แพ้ คนไม่แพ้(โว้ย) หลายฝ่ายก็พยายามจะแก้ไขจุดนี้ ด้วยการพยายามให้แนวทางการเล่น และให้มีน้ำใจนักกีฬา
แต่ก็แน่นอนครับ มันก็วนกลับไปสู่ปัญหาเดิมๆ ที่หลายคนได้ยิน ถ้าคนเล่นทำตามมารยาทและกติกาที่วางไว้... ก็ไม่ใช่พี่ไทยสิครับพี่น้อง!!!! ต่อท้าย #2 25 พ.ค. 2553, 8:36:27 แล้วก็ถูกอีกที่ปัญหาตามมา การชกต่อย การด่าทอ (ยังดีที่ไม่เคยได้ยินว่าเอากันถึงเลือดตกยางออก)
มันก็คล้ายกับปัญหาในการเล่นเกมส์บนอินเตอร์เน็ท แต่ยิ่งกว่าครับ dota นั่นสร้างความต่างทางสังคมออกไป
จะมีผู้เล่น 2 ระดับที่เรียกว่า noob กับ pro ครับ pro ก็คือ professional นั่นเองครับ หรือก็คือ ผู้เล่นเก่งจะเก่งยังไง ไม่ขอพูดครับ
ผู้เล่นที่เรียกตัวเองว่า pro ก็จะไม่เล่นกับ noob ส่วน noob ก็จะเล่นกับ pro เพราะสู้ไม่ได้
ปัญหามันอยู่ที่ ใครจะเป็น noob ใครจะเป็น pro!! มันไม่ได้เหมือนกีฬาครับ ที่มีการ turn pro มีกฏกติการรองรับอย่างเป็นทางการ
และการกล่าวหาว่าใครเป็น noob นั่น ร้ายแรงครับ ดังที่กล่าวไป
การจัดชั้นในระบบ server ก็มีสิ่งที่เรียกว่า public กับ private ก็คือการเล่นแบบ public คือผู้เล่นใครก็ได้สามารถร่วมเล่นด้วยกันได้ ส่วนการเล่น private นั้น จะสามารถจัดให้เฉพาะกับกลุ่มที่เราต้องการได้ครับ
ดังนั้นผู้เล่นที่เรียกตัวเองว่า pro หรือผู้เล่นที่ยกระดับมาอยู่ในผู้เล่นกลุ่ม "น้ำดี" ก็จะมาเล่น private ซึ่งก็จะเจอผู้เล่นลักษณะเดียวกัน ก็คือเป็นน้ำดีเช่นเดียวกัน!!
แน่นอนครับ ถ้าพูดแบบนี้ การเล่นแบบ public ก็มักจะเจอผู้เล่นใครก็ได้ เจอ noob หรือเจอ "น้ำเสีย"
ที่ผมกล่าวมานั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นครับ มันไม่เป็นแบบนี้ทุกคนหรอก เสียแต่ว่า.. มันเป็นส่วนใหญ่!
ครับ เพราะการเล่น public อาจจะเกิดจากผู้เล่นมีคนเดียวไม่มีทีม หรือไม่รู้จะไปเล่น private กับใคร หรือไม่มีใครคบ!!!
จุดนี้คือการสร้างชนชั้น แยกสังคมออกเป็น กลุ่ม อันแทนที่จะสร้างความสามัคคีกลับให้เกิดการแบ่งแยก
ผู้เล่นที่เป็นน้ำเสีย ก็พยายามหาทางออกด้วยทางได้ทางหนึ่ง ด้วยการปั่นป่วนตัวเกมส์อย่างเดียวโดยที่ไม่คิดจะเล่นทำให้ผู้เล่นเหล่านี้ ฝึกนิสัย ไม่ยอมแพ้ ไม่สนโลก เอาตัวเองเป็นหลัก ทั้งนี้ทั้งนั้น มันมีทีมา แต่ก็ยาวเกินกว่าจะเล่าต่อ..
สังคมกำลังแบ่งคนออกเป็น 2 กลุ่มอย่างไมรู้ตัว เด็กที่อยู่ในสังคมน้ำเสีย เพื่อเค้ากลับไปสู่โลกแห่งความจริง
การแบ่งแยกทางชนชั้นนั่นจะไปเกิดในโลกแห่งความจริง หรือไม่.. และจะเกิดจากเกมส์หรือไม่..
ผมเคยพูดถึงการฝึกทำบาป หรือการซ้อมทำผิด การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาจากในเกมส์และนำไปสู่โลกแห่งความจริง
หากเด็กที่โตไปแยก dota ออกจากโลกแห่งความจริงไม่ได้ สังคมที่แตกต่างกันบีบให้เค้าปลดปล่อยออกทางใดทางหนึ่ง
การจะต้องได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการโดยไม่สนว่าจะเป็นวิธีไหน....